สวัสดีค่ะ..
สำหรับครั้งนี้ ดิฉันได้นำข้อมูลหรือตัวเลือกสำหรับผู้ที่สนใจจะจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยมาฝากกันนะคะ
ในปัจจุบันนั้นอาชีพ รปภ. นั้นสามารถหาได้ 2 ทางด้วยกัน คือ รับสมัครเอง กับ ใช้บริการบริษัทรักษาความปลอดภัย โดยแต่ละแบบนั้นก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ลองมาดูข้อดีของการจ้างผ่านการรับสมัครเองก่อนนะคะ
จ้าง รปภ. ผ่านการรับสมัครเอง
สำหรับการหา รปภ. แบบนี้ก็คือการขึ้นป้ายรับสมัครและสัมภาษณ์งานเอง ข้อดีของการจ้างแบบนี้ก็คือค่าจ้างที่ใช้จ้าง รปภ. นั้นจะมีราคาถูกกว่าจ้างแบบบริษัท เนื่องจากสามารถกำหนดค่าจ้างได้เอง (อาจเป็นลูกจ้างรายวันหรือรายเดือน) ผ่านการสัมภาษณ์และประเมินคร่าวๆด้วยตนเองว่าเหมาะจะเป็น รปภ.หรือไม่ ส่วนสัญญานั้นขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างผู้ว่าจ้างกับผู้ถูกจ้าง การจ้าง รปภ. แบบรับสมัครเองนั้นเหมาะกับสถานที่ราชการหรือตามหอพักต่างๆ ที่ใช้จำนวนรปภ. น้อย (ไม่เกิน 3คนต่อกะ)
สำหรับข้อเสียของการจ้าง รปภ. ผ่านการรับสมัครเองนั้นหนึ่งเลยอยู่ที่การคัดกรองของตัวเราเองว่าจะได้ รปภ. ที่ดีมาหรือไม่ อันนี้คงต้องใช้การซักประวัติและอ่านประวัติให้ดี ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะเจอ รปภ. ที่ไม่รับผิดชอบงาน ร้ายๆเข้าอาจจะกลายเป็นผู้ร้ายเองก็เป็นได้ รปภ.ที่จ้างไม่มีประสบการณ์ หรือไม่ได้ผ่านการอบรม อันนี้อาจจะเจอบ่อยถ้า รปภ. ที่จ้างไม่มีประสบการณ์แล้ว อาจจะทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ไม่ดีหรือเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ และเมื่อเกิดเหตุร้ายที่ตรวจสอบแล้วพบว่าเกิดจากความละเลยของ รปภ. เราต้องไปเก็บค่าความเสียหายกับ รปภ. เอง ซึ่งลำบากมาก และถ้าใช้พนักงานรักษาความปลอดภัยจำนวนเยอะๆแล้ว การทำงานเป็นทีมจะแย่กว่าการจ้างมาจากบริษัทรักษาความปลอดภัยที่มีการอบรมในเรื่องการประสานงานและการทำงานเป็นทีม
จ้าง รปภ. ผ่านบริษัทรักษาความปลอดภัย
สำหรับการหา รปภ. แบบนี้นั้นจะใช้การจ้างงานผ่านบริษัทรักษาความปลอดภัยที่มีบุคลากรในบริษัทอยู่แล้ว โดยข้อดีของการจ้างแบบนี้อย่างแรกเลยก็คือ ไม่ต้องคัดกรองเอง เพราะบริษัทนั้นจำเป็นต้องคัดมาในระดับนึงแล้ว (ถ้ารับคนไม่ดีมา ก็ส่งผลต่อชื่อเสียงของบริษัท) และ รปภ. จะต้องผ่านการอบรมหลักสูตรต่างๆ อาทิ การประสานงาน การทำงานเป็นทีม ศิลปะการต่อสู้จับกุม การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การใช้เครื่องมือต่างๆ เป็นต้น จึงพอมั่นใจได้ในระดับนึงว่าถึงไม่มีประสบการณ์เลยก็ผ่านการอบรมมาบ้างแล้ว และเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เกิดจากความละเลยของตัว รปภ. เอง บริษัทแม่ของ รปภ. จำเป็นต้องรับผิดชอบก่อน แล้วค่อยไปไล่บี้ที่ตัว รปภ. เอง และ รปภ. ประเภทนี้นั้นจะมีหลักการปฏิบัติตัวที่ต้องเคร่งครัดและต้องรับผิดชอบในหน้าที่เป็นอย่างมาก
จะเห็นว่าข้อดีของการจ้าง รปภ. ผ่านทางบริษัทรักษาความปลอดภัยนั้นจะมีความมั่นคงสูงมาก แต่ไม่ใช่จะไม่มีข้อเสีย ซึ่งข้อเสียของการจ้าง รปภ. ผ่านบริษัทรักษาความปลอดภัยนั่นก็คือ ค่าใช้จ่ายต่อ รปภ. 1 คนนั้นจะสูงมาก โดยจะมีสูตรคำนวณคร่าวๆ ดังนี้
เงินเดือนพนักงานรักษาความปลอดภัย+เงินประกันความเสียหาย+กำไรของบริษัทรักษาความปลอดภัย(ค่านายหน้า)=เงินค่าจ้างที่เราต้องจ่าย/คน
จะเห็นว่ามีรายจ่ายในส่วนของค่าประกันและค่านายหน้าเสริมมาด้วย ซึ่งถ้าเราจ้างผ่านการรับสมัครเองก็จะมีรายจ่ายแค่ เงินเดือนของพนักงานแค่นั้น และการที่บริษัทเป็นคนจัดหาพนักงาน รปภ. ให้เราเองนั้นอาจจะไม่ถูกใจ (ปกติสามารถขอเปลี่ยนได้) จนทำให้เกิดทัศนคติที่ไม่ดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง
หลังจากที่อธิบายข้อดี/ข้อเสียของการหา รปภ. ในแต่ละแบบไปเรียบร้อยแล้ว มาดูวิธีการในการจ้างแต่ละแบบกัน สำหรับการจ้างแบบรับสมัครเองนั้นก็อาจจะเป็นการขึ้นป้ายประกาศ/ประกาศผ่านเว็บไซต์ เมื่อมีคนมาสมัครก็ซักประวัติ สัมภาษณ์ ถ้าตัดสินใจรับเข้าทำงานก็ทำการเขียนสัญญาไว้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น แต่สำหรับการจ้างผ่านบริษัทนั้นจะมีขั้นตอนที่แตกต่างออกไปสักหน่อย สำหรับการจ้างผ่านบริษัทมีขั้นตอนคร่าวๆดังนี้
1. ติดต่อบริษัทรักษาความปลอดภัย บอกข้อมูลเบื้องต้นของผู้ว่าจ้าง และจำนวนพนักงานที่ต้องการ2. บริษัทตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นผู้ว่าจ้าง
3. ผ่านข้อ 2 บริษัทจัดหาพนักงานให้กับผู้ว่าจ้างและยื่นให้ผู้ว่าจ้าง
4. ผู้ว่าจ้างตกลง ทำสัญญากับทางบริษัท บริษัทส่งพนักงานลงพื้นที่
สำหรับขั้นตอนคร่าวๆของการจ้าง รปภ. ผ่านบริษัทรักษาความปลอดภัยทุกบริษัทก็มีประมาณนี้ อาจจะแตกต่างไปบ้างเล็กน้อยแล้วแต่บริษัท จะเห็นความแตกต่างอีกข้อหนึ่งคือ เราจะทำสัญญากับบริษัทซึ่งต่างจากจ้างเองที่เราทำสัญญากับตัวพนักงาน ดังนั้นถ้าเวลามีปัญหาหรือเกิดการฟ้องร้องตัวบริษัทนั้นจะต้องรับผิดชอบด้วย
สำหรับครั้งนี้เราก้ได้ทราบข้อมูลสำหรับการจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยไปแล้วนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังมองหาพนักงานรักษาความปลอดภัยกันนะคะ
สำหรับครั้งต่อไปนั้น เราจะนำข้อมูลอะไรมาฝากกัน รอติดตามกันได้เลยค่ะ
ขอขอบคุณรุปภาพและข้อมูลจาก : http://www.thaihow.com/1535
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น